เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสร็จสิ้นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีน อย่างเป็นทางการ จากนั้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้แถลงสรุปผลการเยือนครั้งนี้

โฆษกการต่างประเทศจีน ระบุว่า ตามคำเชิญของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนจีน อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน 2025 โดยการเยือนครั้งนี้ เป็นโอกาสที่จีน-ไทย สถาปนาความสัมพันธ์ทางทูตครบรอบ 50 ปี ซึ่งเป็น 50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย นับเป็นการเยือนจีนครั้งแรกของกษัตริย์ไทย หลังสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมา ทั้งนี้ จีนเป็นมหาประเทศ ประเทศแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินเยือน หลังขึ้นครองราชสมบัติ
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เข้าพบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ บรรลุการรับรู้ร่วมกันเกี่ยวกับการพัฒนามิตรไมตรีความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทย เห็นด้วยที่จะร่วมกันชี้นำการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีนกับไทย และเสริมสร้างผลคืบหน้าที่ใหญ่กว่านี้ในอีก 50 ปีข้างหน้า ร่วมเขียนบทบาทแห่งมิตรภาพจีน-ไทย อีกทั้งผู้นำทั้งสองประเทศเห็นพ้องต้องกันว่า ในครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา สองประเทศได้เคียงบ่าเคียงไหล่ ช่วยเหลือกันรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก เป็นญาติที่สนิทกัน เพื่อนแท้และหุ้นส่วนที่มีความใกล้ชิด ประชาชนสองประเทศไปมาหาสู่กันอย่างใกล้ชิด ความร่วมมืออำนวยประโยชน์แก่กันและมีขยายการปฏิบัติเชิงลึก และความร่วมมือระหว่างจีนกับไทยเป็นความร่วมมือระหว่างพี่น้องกัน
นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศเห็นพ้องต้องกันว่า ทั้งสองฝ่ายควรส่งเสริมการประสานงานเชิงยุทธศาสตร์ขณะสองประเทศต่างอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งการฟื้นฟู และพัฒนาประเทศ ต้องให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้รับผลประโยชน์มากขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ต้องผลักดันการผสมผสานด้านวัฒนธรรม ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนบุคลากร ให้ประชาชนสองประเทศมีความสนิทแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ด้วยเช่นกัน
ระหว่างการเยือนครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชินี ทรงวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์วีรชน และเสด็จพระราชดำเนินเยือนสถานที่ต่างๆ เรียนรู้ผลสำเร็จความทันสมัยแบบจีนอย่างใกล้ชิด ผลักดันการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนกับไทย