รายงานล่าสุดชี้ จีนยังคงอยู่ในชั้นนำพัฒนาพลังงานสะอาดโลก

CRI, October 17, 2025
Size:

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่น บริษัท Ember ซึ่งเป็นคลังสมองด้านสภาพภูมิอากาศและพลังงานของสหราชอาณาจักร ได้เผยแพร่รายงานสำรวจพลังงานโลกฉบับล่าสุด โดยระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ จีนมีการติดตั้งกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมใหม่มากกว่าผลรวมของภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ซึ่งถือว่า ยังคงอยู่ในชั้นนำทางการพัฒนาพลังงานสะอาดของโลก

รายงานฉบับนี้มีชื่อว่า“การวิเคราะห์ด้านไฟฟ้าโลกครึ่งปี 2025” โดยชี้ให้เห็นว่า จีนยังคงอยู่ในชั้นนำอย่างโดดเด่นด้านการเติบโตของพลังงานสะอาด โดยในช่วงครึ่งปีแรก ปริมาณการเติบโตทางกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของจีน คิดเป็น 55% ของการเติบโตทั่วโลก และปริมาณการเติบโตทางกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมคิดเป็น 82% ของทั่วโลก

ในช่วงครึ่งปีแรก การผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของจีนเพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว สูงกว่าปริมาณเฉลี่ยทั่วโลกในช่วงเดียวกันที่เป็น 31% และคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 85% ของการเพิ่มขึ้นทางพลังงานไฟฟ้าในจีน สัดส่วนของพลังงานแสงอาทิตย์ในโครงสร้างไฟฟ้าของจีนเพิ่มขึ้นกว่า 3% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว

ในด้านการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลม ในครึ่งปีแรก จีนเพิ่มขึ้น 16% คิดเป็นปริมาณเฉลี่ยโลกมากกว่าสองเท่า และเป็น 40% ของการเติบโตด้านไฟฟ้าของจีน และ 82% ของการเติบโตทั่วโลก

นอกจากนี้ ในบรรดาพลังงานคาร์บอนต่ำ การผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของจีนเพิ่มขึ้น 11% ถือว่ามีส่วนช่วยมากกว่า 70% สำหรับการเติบโตด้านพลังงานนิวเคลียร์ทั่วโลก

รายงานยังระบุว่า ในครึ่งแรกปี 2025 จีนสามารถตอบสนองต่อความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นได้ทั้งหมดด้วยพลังงานสะอาด ทำให้การผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และการปล่อยมลพิษลดลง โดยการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินและก๊าซธรรมชาติของจีนลดลง 2% พร้อมกัน ส่วนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิลอื่นๆ ก็ลดลงเช่นกัน ส่งผลให้ภาคพลังงานไฟฟ้าของจีนสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 46 ล้านตันในช่วงครึ่งปีแรก

ในรายงานที่เผยแพร่ล่าสุดนี้ นักวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลการผลิตไฟฟ้ารายเดือนของ 88 ประเทศและภูมิภาค ซึ่งคิดเป็น 93% ของความต้องการด้านไฟฟ้าทั่วโลก และได้ทำการวิเคราะห์เชิงลึกใน ตลาดไฟฟ้าหลัก 4 แห่งของโลก ได้แก่ จีน อินเดีย สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป

รายงานระบุว่า การดำเนินงานดังกล่าว ต้องอาศัยการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการเติบโตของพลังงานลม ทำให้การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกมีปริมาณมากกว่าการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินเป็นครั้งแรกในครึ่งแรกปี 2025