เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดีจีน ได้พบปะกับนายทองลุน สีสุลิด เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว และประธานาธิบดีสปป.ลาว ที่มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง ในโอกาสเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ปี 2025 และกิจกรรมรำลึกครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะสงครามต่อต้านการรุกรานจากญี่ปุ่นของประชาชนจีนและสงครามต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์ของโลก รวมทั้งการเยือนจีนอย่างเป็นทางการ
นายสี จิ้นผิง เน้นว่า ท่ามกลางสถานการณ์ระหว่างประเทศและภูมิภาคที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างซับซ้อน จีน-ลาวทั้งสองฝ่ายควรดำเนินความสัมพันธ์สองประเทศด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและแนวคิดเชิงยุทธศาสตร์ ยืนหยัดสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างมั่นคงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลักและข้อกังวลสำคัญของแต่ละฝ่าย พร้อมทั้งใช้โอกาสครบรอบ 65 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ลาวในปีหน้า วางแผนและขับเคลื่อนการแลกเปลี่ยนในทุกด้าน จีนยินดีที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการบริหารพรรคและการปกครองประเทศ สนับสนุนพรรคประชาชนปฏิวัติลาวในการเตรียมการและจัดการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 12 อย่างราบรื่น จีนขอแสดงความยินดีที่ลาวได้รับการยอมรับให้เป็นประเทศคู่เจรจาขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ และพร้อมที่จะร่วมมือกับลาว ขับเคลื่อนความร่วมมือและการประสานงาน ภายใต้กลไกความร่วมมือระดับภูมิภาค เช่น ความร่วมมือจีน-อาเซียน ความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก เพื่อส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาของภูมิภาค
ด้านนายทองลุน สีสุลิด ได้แสดงความยินดีอย่างอบอุ่นต่อความสำเร็จของจีนในการจัดการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ที่นครเทียนจิน และกิจกรรมรำลึกครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะสงครามต่อต้านการรุกรานจากญี่ปุ่นของประชาชนจีนและสงครามต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์ของโลก พร้อมทั้งขอบคุณจีนที่ให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือแก่ลาวมาโดยตลอด นายทองลุน ย้ำว่าความสัมพันธ์ลาว-จีนในปัจจุบันอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ การสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างลาว-จีน ได้บรรลุผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายลาวยินดีร่วมมือกับจีนผลักดันแผนปฏิบัติการระยะ 5 ปีฉบับใหม่ ว่าด้วยการสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างลาว-จีน เร่งพัฒนาระเบียงศรษฐกิจลาว-จีน ผลักดันการดำเนินการตามข้อตกลง“การตรวจคนเข้าเมืองสองพื้นที่” ของทางรถไฟลาว-จีน รวมถึงยกระดับผลสัมฤทธิ์ของความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในทุก ๆ ด้าน