เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะเอกอัครราชทูตประเทศลุ่มน้ำโขงประจำประเทศจีนได้เดินทางเยือนเขตปกครองตนเองทิเบตของจีนในกิจกรรม“การเยือนทิเบตของคณะเอกอัครราชทูตลุ่มน้ำล้านช้าง-แม่โขงประจำจีน” โดยได้ลงพื้นที่ทั้งในเมืองลาซาและเมืองชางตู สัมผัสจังหวะวัฒนธรรมแห่ง“หลังคาโลก” และแนวทางการอนุรักษ์ระบบนิเวศอย่างลึกซึ้ง
ในเมืองลาซา คณะเอกอัครราชทูตฯ ได้เยี่ยมชมพระราชวังโปตาลา วัดโจคัง อารามเซรา และพระราชวังโนร์พูลิงกา
นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล เอกอัครราชทูตไทยประจำจีน ซึ่งเดินทางเยือนทิเบตเป็นครั้งแรก กล่าวว่า“ผมประทับใจในความทันสมัยของท่าอากาศยานลาซาก้งกา ถนนเส้นทางจากท่าอากาศยานไปยังโรงแรมก็งดงามเช่นกัน สิ่งที่น่าประทับใจคือ ทิเบตสามารถพัฒนาให้ทันสมัยได้โดยไม่ละเลยการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมดั้งเดิม จนสร้างความสมดุลระหว่างความทันสมัยกับประวัติศาสตร์ได้อย่างดี”
ขณะที่เยี่ยมชมพระราชวังโนร์พูลิงกา นาง Cha Su Mang ที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำจีน ได้สวมชุดฤดูร้อนของชาวทิเบตที่ซื้อมาใหม่ เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตของชาวทิเบตอย่างลึกซึ้ง
เมืองชางตู เขตปกครองตนเองทิเบต ถือเป็นพื้นที่สำคัญที่แม่น้ำล้านช้างไหลผ่าน และยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางหลักของการเยือนครั้งนี้ด้วย นาย Pham Thanh Binh เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำจีน เน้นว่า เขตปกครองตนเองทิเบตไม่เพียงเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ทางตะวันตกของจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสำคัญหลายสายที่ไหลผ่านประเทศต่าง ๆ รวมถึงแม่น้ำโขง เขากล่าว“ในการเยือนครั้งนี้ เรายินดีที่ได้เห็นว่าระบบนิเวศของแม่น้ำเหล่านี้ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม”
กิจกรรม“การเยือนทิเบตของคณะเอกอัครราชทูตลุ่มน้ำล้านช้าง-แม่โขงประจำจีน” เริ่มต้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ใช้เวลา 5 วัน กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นในโอกาสครบรอบ 60 ปีของการก่อตั้งเขตปกครองตนเองทิเบต มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ LMC ให้มีความลุ่มลึกและมีคุณภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมมิตรภาพและความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับเขตปกครองตนเองทิเบตของจีน