พัฒนาเทคโนโลยีด้วยตนเอง แรงขับเคลื่อนสำคัญการพัฒนาของจีน

นับตั้งแต่โบราณกาล วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นกำลังที่ผลักดันสังคมมนุษย์ให้พัฒนาสู่ข้างหน้า โดยไม่สามารถต้านทานหรือสวนทางได้ นายสี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุดของจีนเคยกล่าวว่า“วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเป็นอาวุธทรงพลังที่ทำให้ประเทศชาติเข้มแข็งยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทวิสาหกิจมีความสามารถในการแข่งขัน และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดียิ่งขึ้น” พรรรคคอมมิวนิสต์จีนถือการสร้างสรรค์ใหม่ด้านเทคโนโลยีอยู่ในฐานะสำคัญของการพัฒนาประเทศ และเห็นว่า ปมสำคัญของความทันสมัยแบบจีนนั้น ที่สำคัญคือเป็นความทันสมัยทางเทคโนโลยี

ระหว่างที่จีนก้าวสู่ความเป็นประเทศที่ทันยุคทันสมัย ได้เผชิญกับอุปสรรคมากมาย เช่น บริษัทหัวเหวยเคยมีปัญหาขาดแคลนชิปใช้งาน,  ทีมเทคโนโลยีการบินอวกาศจีนถูกสหภาพยุโรปตัดออกจากโครงการวิจัยระบบนำร่องกาลิเลโอ ทำให้เกิดความสูญเสียหลายร้อยล้านหยวน ความยากลำบากเหล่านี้ทำให้จีนรู้ว่า การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างมีคุณภาพสูงและทำให้ความใฝ่ฝันที่จะมีชีวิตดีงามของประชาชนกลายเป็นจริงขึ้นนั้น ต้องอาศัยการสร้างสรรค์ใหม่ด้วยตนเอง เพื่อผ่านทะลุคอขวดด้านเทคโนโลยี และถือเป็นพื้นฐานของการส่งเสริมการพัฒนาประเทศ

ปัจจุบัน จีนนำหน้าทางเทคโนโลยีในหลายด้าน ก้าวเดินบนหนทางการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีอัตลักษณ์ของตนได้ ปัจจับสำคัญคือ 1.นำด้วยยุทธศาสตร์ สร้างระบบนิเวศการสร้างสรรค์ใหม่แห่งชาติ 2.แก้ไขปัญหาเทคโนโลยีสำคัญ“ระบบระดมกำลังทั่วประเทศแบบใหม่” กำลังถล่มการปิดล้อมด้านเทคโนโลยี 3.ผลักดันการพัฒนากำลังผลิตที่มีคุณภาพใหม่ ทำให้การสร้างสรรค์ใหม่ด้านเทคโนโลยีกลายเป็นความเหนือกว่าด้านอุตสาหกรรมการผลิต

ภายใต้ยุทธศาสตร์พัฒนาเทคโนโลยีด้วยตนเอง จีนได้สร้างห่วงโซ่เชื่องโยงกันที่สมบูรณ์แบบ คือ“การศึกษาวิจัยพื้นฐาน-การแก้ไขปัญหาสำคัญด้านเทคโนโลยี-การนำผลสำเร็จทางเทคโนโลยีไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต” ทำให้ดัชนีสร้างสรรค์ใหม่ทั่วโลกของจีนขยับขึ้นจากอันดับที่ 34 ในปี 2012 มาเป็นอันดับที่ 11 ในปี 2024 

จีนสมัยใหม่จะใช้ท่าทีเปิดกว้าง ผลักดันการสร้างสรรค์ใหม่ด้านเทคโนโลยีและความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างประเทศ ทำให้การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วยตนเองกลายเป็นเครื่องยนต์ที่แข็งแกร่งในการขับเคลื่อนการสร้างสรรค์ความทันสมัยของจีน และย่อมจะผลักดันการพัฒนาและความก้าวหน้าของมนุษย์