โลกจับตาแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนปีนี้ จากการประชุมสองสภา

CRI, March 12, 2025
Size:

การประชุมสองสภา ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีที่สำคัญที่สุดของจีนเริ่มต้นขึ้นแล้ว  โดยการประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองจีน (CPPCC) เริ่มประชุมในวันที่ 4 มีนาคม 2568  และการประชุมสภาประชาชนจีน  (NPC) เริ่มประชุมในวันที่5 มีนาคม2568  

ในพิธีเปิดการประชุมสภาประชาชนจีน นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรี ส่งรายงานให้กับที่ประชุมสภาฯ ระบุว่าจีนจะดำเนินนโยบายการคลังเชิงรุกและใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายระดับปานกลาง ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนปี2568  โดยตั้งเป้าว่า ปีนี้จีนจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตที่ระดับ5% เท่ากับปีก่อน โดยมีปัจจัยที่หนุนการเติบโตคือ การขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ ควบคู่กับการดำเนินนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล

ในรายงานระบุด้วยว่า รัฐบาลจีนกำหนดอัตราการว่างงานในเมืองที่5.5% โดยตั้งเป้าที่จะสร้างงานใหม่ในเมืองมากกว่า12 ล้านตําแหน่ง นอกจากนี้ รัฐบาลจีนจะจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลกลางกว่า735,000 ล้านหยวนเพื่อขับเคลื่อนการลงทุน และจะออกพันธบัตรรัฐบาลพิเศษระยะยาวพิเศษ1.3 ล้านล้านหยวนด้วย

โดยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้ ยังคงให้ความสำคัญกับการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ ยกระดับอุตสาหกรรมเดิมและการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูง มุ่งเน้นการส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ เช่น เศรษฐกิจการบินเพดานต่ำ เทคโนโลยี AI เทคโนโลยีควอนตัม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น

ขณะที่การประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองจีน (CPPCC) ปีนี้ มีสมาชิกสภาที่ปรึกษาทางการเมืองกว่า2,100 คน จาก34 วงการ เช่น ภาคเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม เข้าร่วม นายหวัง ฮู่หนิง ประธานสภาที่ปรึกษาทางการเมืองจีน กล่าวว่า ในปี2567 แม้ว่าจีนจะเผชิญกับความท้าทายที่ส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่จีนสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโต5% ตามแผนที่วางไว้

ปีที่ผ่านมา คณะกรรมการแห่งชาติ CPPCC ร่วมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศจีนในด้านต่างๆ  จัดให้มีการปรึกษาหารือและพิจารณา 85 ครั้ง ศึกษาและสำรวจเรื่องต่างๆ 99 ครั้ง และดําเนินการตามข้อเสนอแนะมากกว่า 5,000 รายการ นำมาสู่การนำเสนอแผนการพัฒนาประเทศจีนในปีนี้ ซึ่งถือเป็นปีสุดท้ายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 14 (ปีค.ศ. 2021-2025)  และยังจะเป็นแนวทางสำคัญในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 15 (ปีค.ศ. 2026-2030) เพื่อขับเคลื่อนประเทศจีน ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ2 ของโลกให้ประสบความสำเร็จต่อไป