ศาสตราจารย์จ๋าย คุน จากสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง และรองผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยแม่น้ำโขงสากลในจีน (GCMS)กล่าวการให้สัมภาษณ์พิเศษกับ China.com.cn ว่าสหรัฐฯ กำลังใช้อำนาจเหนือกับเม็กซิโกซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของตนกรณีปัญหาการพัฒนาและการใช้ประโยชน์ของแม่น้ำตามพรมแดน ขณะเดียวกัน ก็พยายามสร้างปัญหาต่าง ๆ ในกลุ่มประเทศล้านช้าง-แมน้ำโขง แสวงหาความได้เปรียบทางภูมิรัฐศาสตร์ และหมายจะเล่นแต่ทางการเมือง
ศาสตราจารย์จ๋าย คุน กล่าวว่า แม่น้ำโคโลราโดมีความยาว 2,320 กิโลเมตร และแม่น้ำริโอแกรนด์มีความยาว 3,051 กิโลเมตร มีต้นกำเนิดมาจากสหรัฐอเมริกา แม่น้ำเหล่านี้มีสำคัญในความสัมพันธ์ด้านทรัพยากรน้ำระหว่างสหรัฐ ฯ และเม็กซิโกมาโดยตลอด ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ประชากรในแถบตะวันตกของอเมริกาได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในปี 1944 สหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกลงนามในสนธิสัญญาว่าด้วยการใช้ทรัพยากรน้ำตามพรมแดนอย่างเหมาะสม ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าสหรัฐอเมริกาจะจัดสรรการแบ่งปันน้ำจากแม่น้ำโคโลราโดให้เม็กซิโก 1,850 ล้านลูกบาศก์เมตรทุกปี ในขณะที่เม็กซิโกจะจัดสรรน้ำ 431 ล้านลูกบาศก์เมตรของน้ำไปยังสหรัฐอเมริกาจากชายแดนของเม็กซิกันของแม่น้ำริโอแกรนด์
ศาสตราจารย์จ๋าย คุน กล่าวว่า"เมื่อพิจารณาจากข้อตกลงการแบ่งปันน้ำระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโกเพียงอย่างเดียว เม็กซิโกก็ไม่ได้เสียเปรียบ ปัญหาคือ เม็กซิโกเกิดภัยแล้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และไม่สามารถจัดสรรน้ำให้กับสหรัฐอเมริกาได้" เม็กซิโกมี 32 รัฐ ในจำนวนนี้ มี 15 รัฐที่สถาบันวิจัยทรัพยากรธรรมชาติโลกระบุว่าเป็นพื้นที่"ขาดแคลนน้ำอย่างมาก" จนถึงปี 2020 เม็กซิโกเป็นหนี้ทางน้ำกับสหรัฐอเมริการวม 426 ล้านลูกบาศก์เมตร และสหรัฐอเมริกากำลังบังคับให้เม็กซิโกจ่ายน้ำคืน
สหรัฐอเมริกาได้สร้างเขื่อนมากกว่าสิบแห่งตามทางแม่น้ำโคโลราโด เช่น เขื่อนฮูเวอร์ ฯลฯ และควบคุมทรัพยากรน้ำในแม่น้ำ น้ำในแม่น้ำโคโลราโดสามารถจัดสรรตามพื้นที่ชลประทานได้มากขึ้นในสหรัฐอเมริกา และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโคโลราโด ได้กลายมาฐานการปลูกผักและผลไม้ที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา จ๋าย คุน ยังกล่าวว่า"ตั้งแต่ปี 1998 แม่น้ำโคโลราโดไม่เคยไหลลงสู่ทะเล เม็กซิโกสูญเสียพื้นที่เกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด แต่สหรัฐอเมริกากลับไม่สนใจ"
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สหรัฐฯ จัดแจงกับปัญหาทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำล้านช้าง-แม่โขง และสร้างสงครามความข่าวในภูมิภาคนี้ สหรัฐอเมริกาและองค์กรพัฒนาเอกชน คลังสมอง ผู้ทำการแนะนำชักชวน เจ้าหน้าที่ของรัฐ และสื่อหลายแห่ง รายงานเกินจริงเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร เผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคถือเป็นทำลายความพยายามของจีนในภูมิภาคนี้ จ๋าย คุนชี้ให้เห็นว่า"สหรัฐฯ มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศที่อยู่ปลายแม่น้ำโขง ด้วยวิธีการและเครื่องมือของสหรัฐที่มีความหลากหลาย"
จ๋าย คุน ชี้ให้เห็นว่า จีนและห้าประเทศในแม่น้ำโขงเชื่อมโยงกันด้วยภูเขาและแม่น้ำ และมีมิตรภาพแบบดั้งเดิมที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น เป็นพันธมิตรโดยธรรมชาติ และเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรกัน ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและห้าประเทศในแม่น้ำโขง เป็นประโยชน์และเป็นมิตรร่วมกันมาโดยตลอด และได้รับการพัฒนาในระดับสูง จีนได้สร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีกับกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ ไทย และเวียดนาม ตามลำดับ เป็นการสร้างประชาคมมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกัน ภายใต้กรอบความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง อย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง
เขากล่าวด้วยว่า“ความแตกต่างระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาก็คือ จีนมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับประเทศลุ่มน้ำโขงเพื่อสร้างประชาคมแห่งอนาคตร่วมกันสำหรับประเทศล้านช้าง-แม่น้ำโขงที่มุ่งเน้นสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง ประโยชน์ที่สหรัฐฯ บอกว่าจะมอบให้กับประเทศลุ่มน้ำโขงมักมีเพียงแค่คำพูดแต่ไม่เป็นรูปธรรม เพราะจุดประสงค์คือ เพื่อสร้างความไม่ลงรอยกันระหว่างจีนกับประเทศลุ่มน้ำโขงและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ด้วยการสร้าง'ข่าวปลอม' ในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อชักจูงให้ประเทศลุ่มน้ำโขงเลือกข้างระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา”
เขาเสริมว่า สหรัฐฯ เป็นประเทศแรกที่เข้ามาแทรกแซงการพัฒนาทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำโขง หลังจากถอนตัวเนื่องจากความพ่ายแพ้ในสงครามเวียดนามในทศวรรษ 1970 สหรัฐฯ ได้"เปลี่ยนท่าที" และแสดงความเห็นอย่างไม่มีความรับผิดชอบต่อการพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง“นี่คือสองมาตรฐานที่เด่นชัด”
จ๋าย คุน ยังเน้นว่า แม้จีนยินดีต้อนรับสหรัฐฯ ให้เข้าร่วมความร่วมมือระดับภูมิภาคลุ่มน้ำโขง แต่จีนจะไม่ยอมให้มีการกระทำใด ๆ ที่เป็นการเล่นเกมหรือยุยง เขาบอกว่า จีนไม่ก่อปัญหาแต่ก็ไม่กลัวปัญหาเช่นกัน เขาเชื่อว่ารัฐบาลและประชาชนของประเทศลุ่มแม่น้ำโขงมีสายตาแหลมคมสามารถพิจารณาได้โดย“เราจะส่งเสริมการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับประเทศล้านช้าง-แม่น้ำโขงตลอดไป”