รถยนต์ไร้คนขับจีนสนับสนุนการก่อสร้างท่าเรือสีเขียวที่ทันสมัยของไทย

lmcchina.org, November 2, 2022
Size:

เมื่อเร็ว ๆ นี้ รถบรรทุกไร้คนขับจำนวน 20 คัน ชุดที่ 2 ส่งมาถึงท่าเรือแหลมฉบังซึ่งตั้งอยู่ทิศทางภาคตะวันออกของประเทศไทย และจะเปิดใช้งานในระยะใกล้

สุทธิรัตน์ โตศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการท่าเทียบเรือ ดี (Terminal D) แนะนำว่า รถบรรทุกที่จะเข้าออกท่าเรือมีจำนวนมากกว่า 1,000 คันต่อวัน ปัจจุบันรถบรรทุกไร้คนขับทำงานประสานกันกับรถบรรทุกดั้งเดิมในบริเวณเดียวกัน หยาง อวี่จวิ่น ผู้อำนวยการโครงการไทย บริษัทสารสนเทศและเทคโนโลยีซีจิ่ง เซี่ยงไฮ้ จำกัด (Shanghai Westwell Information and Technology) กล่าวว่า ปัจจุบันรถบรรทุกไร้คนขับมีความสามารถการขนส่งที่ใกล้เคียงกับรถบรรทุกดั้งเดิม รถบรรทุกไร้คนขับชุดที่ 2 ที่ส่งมาถึงท่าเรือนั้นสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยอัตโนมัติภายใน 6 นาที ในอนาคตหลังจากความเป็นอัตโนมัติเพิ่มมากขึ้น รถบรรทุกไร้คนขับก็จะมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงกว่ารถบรรทุกดั้งเดิม

ด้วยความพยายามร่วมกันของทีมงานทั้งจีนและไทย รถบรรทุกไร้คนขับเริ่มใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ แสดงบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้นในด้านการขนส่งสินค้า สุทธิรัตน์กล่าวว่า โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 รถบรรทุกไร้คนขับได้แก้ไขปัญหาการขาดแคลนพลังงานการขนส่งในท่าเรือในระดับหนึ่ง กระทั่งปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ.2022 กองรถบรรทุกไร้คนขับช่วยขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์มากกว่า 150,000 ตู้แล้ว

ถัน หลีหมิ่น ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารสูงสุดแห่งบริษัทสารสนเทศและเทคโนโลยีซีจิ่ง เซี่ยงไฮ้ จำกัด แนะนำว่า รถบรรทุกไร้คนขับคัน 1 สามารถทำงานเท่ากับคนขับรถบรรทุก 4 คน ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานมากกว่ารถยนต์ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงเท่านั้น ทว่ายังจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนอีกด้วย

ไทยมุ่งที่จะสร้างสรรค์ท่าเรือแหลมฉบังให้เป็นเครือข่ายขนส่งที่เชื่อมโยงทางรถไฟ-ทางหลวง-แม่น้ำ จนเป็นท่าเรือสีเขียวอันทันสมัยที่สามารถขนส่งได้อย่างรวดเร็วระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน รถบรรทุกไร้คนขับได้กลายเป็นส่วนประกอบสำคัญในการรีโมตคอนโทรลของท่าเทียบเรือดี ท่าเรือแหลมฉบัง สตีเฟน ผู้จัดการใหญ่ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทยกว่าวว่า โครงการรถบรรทุกไร้คนขับ ท่าเรือแหลมฉบังได้กลายเป็นโครงการนำร่อง และกำลังเผยแพร่ไปสู่ประเทศหลากหลาย เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ เป็นต้น