ในฐานะที่เป็นเวทีสำคัญแห่งความร่วมมือด้านความสามารถการผลิตในการร่วมสร้าง“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” นิคมอุตสาหกรรมระยองไทย-จีนซึ่งอยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ( EEC ) ได้ดึงดูดบริษัทจีน 167 แห่งมาลงทุนที่นี่ มีพนักงานไทย 4 หมื่นคน และมูลค่าอุตสาหกรรมรวมมากกว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จนกลายเป็นศูนย์กลางการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมและฐานการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมการผลิตของสาขาอุตสาหกรรมดั้งเดิมจีนในไทย
หลายปีมานี้ นับวันมีบริษัทจีนที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และวัสดุใหม่มาลงทุนที่นิคมนี้มากขึ้น เมื่อปีค.ศ. 2015 บริษัทเทลซันเทคโนโลยี ( Talesun Solar Technologies ) ปักหลักที่นิคมอุตสาหกรรมระยอง พร้อมกับโครงการแผงโซล่าเซลล์แรกที่ลงทุนโดยธุรกิจต่างชาติในไทย ขณะเดียวกันโครงการดังกล่าวยังได้ส่งเสริมธุรกิจการจำหน่ายส่วนประกอบและการพัฒนาสถานีพลังงาน ผลิตภัณฑ์ยังจำหน่ายไปยังตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคใกล้เคียง ยุโรปและอเมริกา
นายจ้าวปิง ประธานบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมระยองไทย-จีน จำกัดกล่าวว่า ในช่วงป้องกันและควบคุมโควิด-19 นิคมอุตสาหกรรมระยองได้ใช้เทคโนโลยีดิจิตอลค้นหารูปแบบใหม่ได้สำเร็จ เช่น“การดึงดูดนักธุรกิจแบบทางไกล”“บริการคลาวด์” ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อปีค.ศ. 2020 ได้ดึงดูดบริษัทใหม่จำนวน 20 แห่งเข้ามาลงทุน สำหรับปีนี้ จนกระทั่งปัจจุบันมีทั้งหมด 7 แห่งมาปักหลักที่นิคม
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 จีนกับไทยได้ฝ่าฟันอุปสรรค์ต่าง ๆ ผลักดันความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมให้ต่อเนื่อง การค้าทวิภาคีทวนกระแสเติบโตขึ้น นายคณิศ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกไทยกล่าวว่า มีนักลงทุนจีนอยากมาลงทุนในไทยมากขึ้น คาดว่าปีนี้มูลค่าการลงทุนของโครงการ EEC จะสูงถึง 4 แสนล้านบาท ( 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่ากับ 33 บาท )นายวิชัย รองประธานอาวุโสธนาคารกสิกรไทยกล่าวว่า“การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับความร่วมมือกับจีน” เมื่อตลาดยุโรป-อเมริกาเสื่อมโทรมลง ตลาดจีนจึงมีความสำคัญมากขึ้น ยอดมูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างไทยกับจีนเพิ่มสูงขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อัตราการเติบโตของมูลค่าการค้าทวิภาคีในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้สูงถึง 37% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพสูงแห่งความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างสองประเทศ สถิติจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนระบุว่า เมื่อปีค.ศ. 2019 จีนแซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นเป็นประเทศที่มีการลงทุนในไทยมากที่สุดเป็นครั้งแรก การลงทุนและความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งสองมีอนาคตอันสดใสกว้างไกลนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทยกล่าวว่า ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ( RCEP )“ในอนาคตความร่วมมือระหว่างสองประเทศจะมีศักยภาพสูงขึ้น และจะเพิ่มพลังใหม่ให้แก่การฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย”