อดีตประธานรัฐสภาไทยชี้จีนเป็นพลังสำคัญในการส่งเสริมสันติภาพ และการพัฒนาของโลก

CRI, August 5, 2021
Size:

เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.โภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภาของไทย และนายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน กล่าวว่าช่วง 100 ปี ที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์จีนในฐานะพรรคการเมืองที่มีความสำคัญยิ่งของโลกได้พัฒนาเติบโตขึ้นด้วยความมานะอดทนจนประสบความสำเร็จอันรุ่งโรจน์ ปัจจุบันจีนได้เริ่มกระบวนการใหม่แห่งการพัฒนาประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยรอบด้าน พร้อมทั้งได้กลายเป็นพลังสำคัญในการส่งเสริมสันติภาพ และการพัฒนาบนเวทีโลก 

ดร.โภคิน พลกุล ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งชาติจีน หรือ ไชน่ามีเดียส์กรุ๊ป โดยกล่าวว่าเมื่อ 100 ปีก่อน จีนตกอยู่ในภาวะยากจนและอ่อนแอมาก แต่พรรคคอมมิวนิสต์ได้บากบั่นต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองด้วยจิตวิญญาณที่มีความภาคภูมิใจ กล้าหาญ และเสียสละ ขจัดความยากลำบากและอุปสรรคต่างๆ นำประชาชนจีนประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศที่ทั่วโลกจับตา มอง

ดร.โภคิน พลกุล ตั้งข้อสังเกตว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนยึดแนวความคิดที่ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถือการขจัดความยากจนเป็นภารกิจสำคัญและได้พิจารณาประเด็นปัญหาสำคัญต่างๆ เกี่ยวกับการขจัดความยากจน เช่น ต้องช่วยเหลือประชากรยากจนด้วยวิธีการใด ต้องประเมินและขยายความสำเร็จในการบรรเทาความยากจนอย่างไร สุดท้ายรัฐบาลจีนก็ได้ดำเนินนโยบายช่วยเหลือประชากรยากจนที่สามารถตอบโจทย์ได้ และหลังจีนใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 8 ปี ประชากรยากจนประมาณ 100 ล้านคนในพื้นที่ชนบททั่วประเทศจีนสามารถหลุดพ้นจากภาวะยากจน ถือเป็นการสร้างคุณูปการแก่การสร้างสังคมพอกินพอใช้รอบด้าน และความสำเร็จเช่นนี้ควรได้รับการเคารพจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก 

ดร.โภคิน พลกุล แสดงความคิดเห็นว่า จิตวิญญาณที่กล้ารับผิดชอบของพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังได้แสดงออกให้เห็นจากการที่จีนได้ให้การสนับสนุนและสร้างคุณูปการแก่ประชาคมโลก จีนยืนยัดในการรักษาความเที่ยงธรรมและความเป็นธรรมในสากลโลกอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ริเริ่มส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เสนอแนวความคิดว่าด้วยการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมกลไกแบบพหุภาคีโลก จึงได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากประชาคมโลก  

การระบาดของโควิด-19 ทำให้ชาวโลกตระหนักดีขึ้นว่า ความผาสุกและอนาคตของประชาชนในประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีความผูกพันกันอย่างใกล้ชิด การทำให้สังคมมนุษย์พ้นจากวิกฤตมีทางออกเพียงทางเดียวเท่านั้น คือแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง และร่วมมือกันเพื่อมีชัยชนะร่วมกัน การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันเป็นหนทางที่ถูกต้องที่จะนำไปสู่สันติภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน 

ดร.โภคิน พลกุล ได้ประเมินค่าอย่างสูงต่อข้อริเริ่ม“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เขากล่าวว่า การร่วมสร้าง“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เป็นประโยชน์ต่อการกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศ และช่วยขับเคลื่อนการปฏิรูประบบธรรมาภิบาลโลก รวมทั้งลดความขัดแย้ง และส่งเสริมการอำนวยประโยชน์แก่กัน เพื่อมีชัยชนะร่วมกัน อีกทั้งยังจะช่วยผลักดันความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐาน และการเชื่อมโยงกันระหว่างประเทศรายทางหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง   

ตั้งแต่ ค.ศ.2013 ถึง ค.ศ. 2019 จีนได้ลงทุนในวงเงิน 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในประเทศรายทางภายใต้กรอบ“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ทั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า จีนกำลังร่วมมือกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อพัฒนาร่วมกัน พร้อมทั้งสร้างคุณูปการแก่การส่งเสริมเสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของโลก จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกฝ่ายจะกระชับความร่วมมือกันมากขึ้นภายใต้กรอบ“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” และร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน