วิสาหกิจจีนลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์อัจฉริยะในประเทศไทย

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) เริ่มดำเนินการผลิตรถยนต์ที่จังหวัดระยอง ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นโรงงานการผลิตแบบเต็มรูปแบบที่มีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของ GWM ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ และ“ความชาญฉลาด” คือจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของโรงงานแห่งนี้

หลี่ กวงอฺวี่ รองประธานบริหารฝ่ายการผลิตของโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทยกล่าวว่า ในฐานะโรงงานอัจฉริยะมาตรฐานสากล โรงงานนี้สามารถผลิตรถยนต์ 200 คันต่อวัน ในขณะเดียวกัน เนื่องจากประยุกต์ใช้ Big Data คลาวด์คอมพิวติ้ง ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีใหม่ต่าง ๆ ปัจจุบันมีแต่คนงานทั้งหมด 70 คนทำงานที่สายการผลิต“สำหรับ Welding Shop ใช้ระบบ Digital Simulation System ที่ทันสมัย ถึงกับสามารถผลิตรถยนต์หลากหลายรูปแบบได้ภายในสถานีเดียวกัน ซึ่งรวบรวมรถยนต์พลังงานใหม่ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ HEV(Hybrid Electric Vehicle) PHEV(Plug-in Hybrid Electric Vehicle) และ BEV(Battery Electric Vehicle) รวมทั้งรถน้ำมันแบบดั้งเดิมด้วย”

ประเทศไทยเป็นประเทศการผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สภาอุตสาหกรรมของประเทศไทยรายงานว่า หากในปี 2021 ปริมาณการผลิตรถยนต์ทั้งปีของไทยเพิ่มขึ้นอย่างสูง จะมีประโยชน์ต่อการฟื้นฟูและพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตของไทยอย่างรอบด้าน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของไทยชี้ว่า โรงงานที่จังหวัดระยองของเกรท วอลล์ มอเตอร์ช่วยจ้างงาน 1000 กว่าตำแหน่งแล้ว และจะเพิ่มขึ้นถึง 3500 ตำแหน่งในอนาคต ทั้งนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการลงทุนและการทำงานในท้องถิ่น ยังช่วยนำเข้าเทคนิคที่ทันสมัยต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยได้คืบหน้าต่อไป และผลักดันการพัฒนาทางเศรษฐกิจทั้งไทยและอาเซียน

หวัง ลี่ผิง อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและพาณิชย์ ประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยกล่าวว่า“การที่วิสาหกิจการผลิตรถยนต์ของจีนตัดสินใจที่เลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตในภูมิภาคอาเซียนนั้น ไม่เพียงแต่จะส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจของไทย หากยังผลักดันการหลอมรวมในเชิงลึกทางด้านอุตสาหกรรมระหว่างจีน-ไทย รวมทั้งช่วยเปลี่ยนรูปแบบและยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศ สะท้อนให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมว่า เราสามารถร่วมมือดำเนินนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางให้เชื่อมโยงกับ Thailand 4.0 ได้ในระดับสูง”