เศรษฐกิจจีนฟื้นฟูอย่างแข็งขัน เปิดโอกาสให้แก่วิสาหกิจไทยมากขึ้น สัมภาษณ์คุณคินชองชอย รองประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทย

คุณคินชองชอย รองประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทยกล่าวว่า การพัฒนาเศรษฐกิจของไทยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตลาดจีน เศรษฐกิจจีนมีการฟื้นฟูอย่างแข็งขันในปัจจุบันจะเปิดโอกาสให้วิสาหกิจไทยมากขึ้น

คุณคินชองชอยกล่าวเพิ่มเติมว่า เศรษฐกิจไทยตกอยู่ในภาวะซบเซาที่สุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับความร่วมมือกับจีน การส่งออกเป็นรายได้สำคัญประการหนึ่งของเศรษฐกิจไทย และจีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทย เมื่อตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกาค่อนข้างอ่อนเปลี้ยในปัจจุบัน ตลาดจีนก็มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น

กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า แม้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ยอดมูลค่าการค้าจีน-ไทยสูงถึง 98630 ล้านดอลลาร์ ได้ขยายตัวถึง 7.5% เมื่อเที่ยบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ในการนี้ ยอดมูลค่าการนำเข้าจากไทยของจีนสูงถึง 48100 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวถึง 4.2% เมื่อเที่ยบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ปีที่แล้วจีนนำเข้าทุเรียนสดจากไทยถึง 1500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 77.57%

ปัจจุบันนี้ การค้าทวิภาคีระหว่างจีนไทยมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวเลขล่าสุดจากกรมศุลกากรจีนระบุว่า ยอดมูลค่าการนำเข้าและส่งออกจากจีนกับไทยในไตรมาสแรกปีนี้ได้เพิ่ม 28.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว คุณคินชองชอยกล่าวว่า กำลังการซื้อที่แข็งขันและต่อเนื่องของตลาดจีนจะเปิดโอกาสให้แก่สินค้าส่งออกของไทย โดยเฉพาะผลไม้

ท่านเห็นว่า วิสาหกิจไทยหวังจะบุกเบิกตลาดจีนให้กว้างขึ้นเพื่อจำหน่ายสินค้าไทยไปจีนมากขึ้น ขณะเดียวกัน การลงทุนจากจีนมีความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทย นักลงทุนจีนถือประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญสำหรับตลาดอาเซียนตลอดจนทั่วโลก นอกจากอี-คอมเมิร์ซและอุตสาหกรรมการผลิต สาธารณูปโภคกับการก่อกสร้างพลังงานใหม่ของไทยก็เป็นแรงดึงดูดนักลงทุนจีนด้วย

เมื่อปี 2019 จีนแซงญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศลงทุนรายใหญ่ที่สุดของไทย คุณคินชองชอยเห็นว่า แผนการพัฒนาของไทย“ไทย 4.0” สามารถเชื่อมโยงกับ“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของจีน เพื่อดึงดูดวิสาหกิจจีนสาขาต่าง ๆ มาลงทุนที่ไทย เช่น วิสาหกิจด้านพลังงานใหม่ วิสาหกิจที่มีวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีใหม่ และวิสาหกิจทางด้านสาธารณูปโภค  เป็นต้น